น้ำหอมฟีโรโมน คืออะไร? ดึงดูดเพศตรงข้ามได้จริงหรือไม่?
top of page

น้ำหอมฟีโรโมน คืออะไร? ดึงดูดเพศตรงข้ามได้จริงหรือไม่?

อัปเดตเมื่อ 11 ธ.ค.

หลายคนคงเคยมีประสบการณ์เดินเข้าไปในห้องแล้วรู้สึกถูกดึงดูดใครบางคนอย่างอธิบายไม่ได้ ราวกับมีพลังลึกลับบางอย่างนำพาให้เราเหลียวมอง แต่ก็มักไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เพื่อไขความลับของแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น และหัวใจของการค้นคว้าครั้งนี้ก็คือ น้ำหอมฟีโรโมน ความลงตัวระหว่างวิทยาศาสตร์และเสน่ห์ที่เย้ายวน มาไขความลับของน้ำหอมฟีโรโมน และวิธีทำงานของมันไปด้วยกัน


ฟีโรโมน คือ

ฟีโรโมนคืออะไร และมันทำงานอย่างไร?

ฟีโรโมนคือกลิ่นไร้รูปที่ร่างกายปล่อยออกมา ทำหน้าที่เป็นสารสื่อสารทางเคมีที่มีอิทธิพลต่อปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์โดยที่แทบไม่รู้ตัว สารชนิดนี้คล้ายภาษาลับของแรงดึงดูด—ส่งสัญญาณทางสัญชาตญาณเกี่ยวกับความสนใจ ความพร้อมเชิงคู่ครอง และการตอบสนองทางอารมณ์

แม้ฟีโรโมนจะได้รับการพูดถึงมากในโลกของสัตว์ แต่ในมนุษย์ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ร่างกายปล่อยสารเหล่านี้ผ่านของเหลวหลายชนิด และสามารถส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่รอบตัวในระดับที่ลึกกว่าการรับรู้ทั่วไป


ในอุตสาหกรรมน้ำหอม ฟีโรโมนสังเคราะห์ เช่น Iso E Super ถูกนำมาใช้เพื่อผสานกับเคมีร่างกายของผู้ใช้ สร้างกลิ่นที่มีลักษณะเฉพาะตัวมากขึ้น น้ำหอมประเภทนี้ถูกออกแบบให้ช่วยขยายสัญญาณดึงดูดทางธรรมชาติและเพิ่มเสน่ห์ในสถานการณ์ทางสังคมหรือโอกาสโรแมนติก

แนวคิดว่ากลิ่นสามารถสื่อสารได้ลึกถึงระดับสัญชาตญาณ ทำให้น้ำหอมฟีโรโมนถูกมองว่าเป็นอีกมิติหนึ่งของศิลปะน้ำหอม—สามารถเปลี่ยนบรรยากาศ การรับรู้ และความประทับใจแรกพบได้ในแบบที่ละเอียดอ่อนและยากจะคาดเดา


ประเภทของน้ำหอมฟีโรโมนและการใช้งาน


ตลาดน้ำหอมฟีโรโมนมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบเฉพาะสำหรับผู้ชาย ผู้หญิง หรือแบบยูนิเซ็กซ์ แต่ละสูตรถูกพัฒนาให้ตอบโจทย์เป้าหมายต่างกัน เช่น เพิ่มแรงดึงดูด เสริมความมั่นใจ หรือสร้างเสน่ห์ในสถานการณ์ทางสังคม


หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมคือ Pure Instinct Pheromone Perfume Roll-On ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่าใช้ฟีโรโมนที่ “เข้ากับมนุษย์ได้” พร้อมส่วนผสมกลิ่นโทนแมงโก้ แมนดาริน น้ำผึ้ง อบเชย และไวท์มัสก์ กลิ่นลักษณะนี้ถูกออกแบบให้ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น เย้ายวน และดึงดูดความสนใจในลักษณะนุ่มนวล


รีวิวจากผู้ใช้หลายคนกล่าวถึงผลลัพธ์ด้านแรงดึงดูดและความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลเชิงสังคม เช่น การได้รับความสนใจมากขึ้น และการสื่อสารที่ราบรื่นขึ้น น้ำหอมฟีโรโมนจึงถูกมองว่าเป็น “ตัวช่วยด้านบุคลิกภาพ” ที่ผสานกับเคมีร่างกายของผู้ใช้จนได้กลิ่นที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

ในโลกแห่งความเป็นจริง ความหอมยั่วยวนชนิดนั้นถูกเข้าใจว่ามาจากปฏิกิริยาของสาร “ฟีโรโมน” (Pheromone) สารคัดหลั่งที่หลั่งออกมาเพื่อดึงดูดเพศตรงข้ามตามธรรมชาติ ทำให้หลายครั้งหลายครา น้ำหอมที่เล่าเรื่องความเซ็กซี่ เย้ายวนอารมณ์จึงมักจะถูกถามหาการผสมสารชนิดนี้อยู่บ่อย ๆ


แต่ “ฟีโรโมน” นั้นทรงอานุภาพขนาดนั้นจริงหรือไม่? วันนี้เราจะไปพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับพลังอำนาจ และความโด่งดังของสารชนิดนี้กัน


ฟีโรโมนคือสารที่สัตว์ผลิตออกมาจากต่อมพิเศษเพื่อใช้สื่อสารกับสัตว์ตัวอื่น โดยมีตัวรับ (Receptor) อยู่ที่ “Vomeronasal Organ” อวัยวะรับกลิ่นที่พบได้ทั่วไปในสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรสัตว์ รวมถึงมนุษย์ด้วย แต่เพราะเส้นทางวิวัฒนาการที่ทำให้การรับกลิ่นของเรากลายเป็นประสาทสัมผัสระบบรอง กลิ่นจึงมีบทบาทในชีวิตประจำวันน้อยกว่าการมองเห็น และการได้ยิน อวัยวะชนิดนี้จึงอาจไม่ได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างเต็มที่เท่ากับที่สัตว์ทำได้


ในปัจจุบันจึงยังไม่มีงานวิจัยที่ออกมาชี้ชัดว่าฟีโรโมนทำงานในมนุษย์ได้เช่นเดียวกับที่มันทำงานในสัตว์ เพราะความยั่วยวนและมีเสน่ห์ของคนเรามีองค์ประกอบที่ซับซ้อนมากกว่าแค่การได้กลิ่นเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่น ๆ


งานวิจัยเรื่อง “Evidence that androstadienone, a putative human chemosignal, modulates women's attributions of men's attractiveness” ในปี 2008 ที่ศึกษาผลกระทบของสาร androstadienone สารเคมีที่พบในเหงื่อ ปัสสาวะ และสารคัดหลั่งอื่น ๆ ของมนุษย์กับความน่าดึงดูดของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิง พบว่า ผู้หญิงที่ได้รับสาร androstadienone มีแนวโน้มที่จะมองว่าผู้ชายตรงหน้าน่าดึงดูด มากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้รับสารดังกล่าว


งานวิจัยชิ้นนี้จึงให้สรุปว่า ฟีโรโมนไม่ได้ทำให้คนรอบข้างมาสนใจเรา แต่กลับทำให้เราสนใจคนรอบข้างมากขึ้น


ในขณะที่ Kerry Hughes นักมานุษยพฤกษศาสตร์ (Ethnobotanist) และสมุนไพรวิทยา ให้ความเห็นว่าฟีโรโมนส่งผลต่อคนที่สนใจกันและกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ให้ดูมีเสน่ห์เย้ายวนเพิ่มมากขึ้น มากกว่าจะส่งผลต่อคนทั่วไปที่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวนี้ก็ค่อนข้างเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่อาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาประกอบมากมาย รวมถึงเอฟเฟคของ “ยาหลอก” (Placebo Effect) ที่เราอาจจะคิดไปเองว่าฟีโรโมนส่งผลต่อความรู้สึกยั่วยวนก็เป็นได้


ในทางน้ำหอม มีการใช้งานกลิ่นฟีโรโมนที่มาจากสัตว์ เช่นสารจากต่อมของชะมดเช็ด (Civet) บีเวอร์ (Beaver) หรือกลิ่นฟีโรโมนสังเคราะห์เองก็ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของน้ำหอมเพื่อเล่าเรื่องราวที่หลากหลายขึ้น ลึกขึ้น สร้างความพลิกผันหรือความดิบเถื่อนได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่เรื่องราว และการปรุงของนักปรุงน้ำหอมแต่ละคนว่าจะสร้างสรรค์เรื่องราวออกมาเช่นไร แต่ก็ไม่ได้ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของการยั่วยวนทางเพศโดยเฉพาะเช่นที่ใครหลายคนเข้าใจ


ความยั่วยวนของมนุษย์จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับกลิ่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงประสาทสัมผัสอื่น ๆ ที่ทำงานประสานกัน บุคลิกลักษณะ นิสัยใจคอ และสเปคของคนแต่ละคนที่แตกต่างกัน กลิ่นที่เสริมบุคลิกของเราจึงไม่อาจสู้การเป็นตัวของตัวเองที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร อันเป็นเสน่ห์สำคัญที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถลอกเลียนแบบไปได้


Featured Posts

Recent Posts

Archive

Search By Tags

Follow Us

  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
marque.png

Scent And Sense ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบการตลาดด้วยกลิ่นหอม
โดยมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในอุตสาหกรรม ด้วยความรู้ลึกซึ้งในด้านการรับผลิต ODM น้ำหอม และการออกแบบน้ำหอม รวมถึงผลิตภัณฑ์สปา ของใช้ในโรงแรม
ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละแบรนด์

Line official
@Perfumefactory

line white.png

® 2014 by Scent And Sense Laboratory Co., Ltd

fb.webp
instagram.webp
youtube.webp
bottom of page