Frequently Asked Questions
(FAQ)
Scent marketing เป็นกลยุทธ์ที่ใช้กลิ่นเพื่อเสริมสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ และสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งกับลูกค้า โดยเกี่ยวข้องกับการใช้กลิ่นอย่างมีกลยุทธ์ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้า เพิ่มยอดขาย และเสริมสร้างความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์
Scent And Sense ได้ใช้ความเชี่ยวชาญกว่าทศวรรษในอุตสาหกรรมน้ำหอม ในการออกแบบโซลูชันกลิ่นที่กำหนดขึ้นเอง ซึ่งเหมาะกับอัตลักษณ์และเป้าหมายของแบรนด์ในแต่ละธุรกิจ โดยเราทำงานกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าผ่านกระบวนการที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงขั้นตอนของการเลือกกลิ่น เทคโนโลยีการกระจายกลิ่น และการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่า การใช้กลยุทธ์ scent marketing นั้น ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ
แทบในทุกอุตสาหกรรม สามารถได้รับประโยชน์จาก scent marketing ซึ่งลูกค้าของเรานั้น ครอบคลุมทั้งการค้าปลีก การบริการสุขภาพ การเงิน อสังหาริมทรัพย์ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเราสามารถปรับแต่งโซลูชันกลิ่นให้ตรงกับความต้องการและวัตถุประสงค์เฉพาะของธุรกิจในหลากหลายภาคส่วน เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและการรับรู้ที่มีต่อแบรนด์
ปลอดภัยอย่างแน่นอน เนื่องจากกลิ่นทั้งหมดของเรานั้น ได้รับการกำหนดสูตรด้วยส่วนผสมคุณภาพสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล รวมถึงเรายังปฎิบัติภายใต้แนวทางขององค์กรน้ำหอมระดับโลก IFRA (International Fragrance Association) อีกทั้งเรายังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดี โดยสามารถมั่นใจได้ว่าน้ำหอมของเรานั้น ปลอดสารพิษ ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ และเหมาะสำหรับการใช้งานในที่ร่มอย่างต่อเนื่อง
เราใช้มาตรฐานตัวชี้วัดต่าง ๆ ในการประเมินผลกระทบของ scent marketing ที่มีต่อธุรกิจของลูกค้า รวมถึงความคิดเห็นของลูกค้า ข้อมูลการขาย และระดับการมีส่วนร่วม ซึ่งเราให้การสนับสนุนในส่วนนี้อย่างต่อเนื่องและคอยปรับเปลี่ยน เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ scent marketing นั้น ยังคงสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและแนวโน้มของตลาด
แน่นอน ซึ่ง Scent marketing นั้น มีส่วนช่วยในการส่งเสริมองค์ประกอบต่าง ๆ ของแบรนด์ได้ ทั้งด้านการมองเห็นและการได้ยิน เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ที่สมจริงมากยิ่งขึ้น โดยเราทำงานร่วมกันกับทีมการตลาดของลูกค้า เพื่อผนวกกลิ่นให้เข้ากับแคมเปญและกลยุทธ์การตลาดที่กว้างขึ้นได้อย่างไร้รอยต่อ
การลงทุนนั้น จะแตกต่างกันไปตามขอบเขตของโครงการ ขนาดของพื้นที่ ประเภทของระบบการนำส่งกลิ่นที่ต้องการ รวมถึงความซับซ้อนในส่วนผสมของกลิ่น ซึ่งเรามีโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้เพื่อตอบสนองธุรกิจในทุกขนาด ซึ่งเราจะดำเนินการส่งมอบใบเสนอราคาและรายละเอียดต่าง ๆ หลังจากที่ได้มีการปรึกษาหารือกันแล้วเบื้องต้น
ในการเริ่มต้น สามารถติดต่อเราผ่านทางเว็บไซต์ของเรา หรือติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ เพื่อทำการนัดหมายการปรึกษาหารือ โดยทีมงานของเราจะแนะนำและเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การริเริ่มสร้างแนวคิดไปจนถึงการนำไปใช้ เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ scent marketing ที่ออกมานั้น เหมาะกับวิสัยทัศน์และวัตถุประสงค์แบรนด์ของคุณ
เรายึดมั่นในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว โดยที่ข้อเสนอของเรานั้น ไม่เป็นเพียงแค่ด้านของโซลูชันกลิ่นเท่านั้น แต่เรายังให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่องและการทำการปรับกลยุทธ์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแบรนด์ตามสภาวะของตลาดที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป้าหมายของเราคือการมีส่วนร่วมในการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการปรับปรุงประสบการณ์และความภักดีของลูกค้าผ่านพลังของกลิ่น
เราคือผู้เชี่ยวชาญด้าน การผลิตน้ำหอม และ การออกแบบกลิ่นเฉพาะตัว (Custom Scent Design) สำหรับแบรนด์ของคุณ เราออกแบบกลิ่นน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์และระบบกระจายกลิ่นเพื่อช่วยให้ธุรกิจสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าจดจำได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน เราให้บริการครอบคลุมหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจค้าปลีก, โรงแรม, สุขภาพ,สปา, แฟชั่น, ร้านอาหาร และสินค้า Luxury
พันธกิจของเรา คือ การเป็นผู้นำด้านโรงงานน้ำหอม และ การออกแบบกลิ่นในภูมิภาคเอเชีย เพื่อส่งมอบน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์ซึ่งสะท้อนตัวตนและแนวคิดของลูกค้าได้อย่างแท้จริง เราตั้งเป้าที่จะสร้างแบรนด์น้ำหอม ให้ประสบความสำเร็จและเติบโตไปด้วยกันกับพาร์ทเนอร์ ด้วยการนำวัตถุดิบหอมกว่าหลายพันชนิดมาสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางกลิ่นที่แตกต่าง
เราผสมผสานศิลปะและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อออกแบบน้ำหอมและกลิ่นที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของแบรนด์แต่ละราย
โดยใช้ สมุนไพรและวัตถุดิบธรรมชาติจากท้องถิ่นไทย เป็นหัวใจหลักของการสร้างสรรค์ ผสมผสานภูมิปัญญาไทยเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ จนเกิดเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์และทันสมัย
เรามีบริการด้านกลิ่นครบวงจร (One-Stop Service) ตั้งแต่
การออกแบบกลิ่นเฉพาะแบรนด์ (Signature Scent Design)
การผลิตแบบ ODM (Original Design Manufacturer)
ระบบกระจายกลิ่นสำหรับพื้นที่ต่างๆ (Scent Diffuser Systems)
บริการจัดหาวัตถุดิบกลิ่นคุณภาพสูง (Fragrance Ingredient Supply)เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
รับสร้างแบรนด์ออกแบบ CI Brand และ Packaging Design ครบจบในที่เดียว
เรามุ่งส่งเสริมเกษตรกรไทย โดยใช้ วัตถุดิบจากท้องถิ่นและสมุนไพรธรรมชาติ ในการพัฒนาน้ำหอมและผลิตภัณฑ์กลิ่นของเรา
Scent & Sense เชื่อในแนวทางธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราจึงผสานแนวคิด Sustainability เข้ากับ DNA ของแบรนด์ เพื่อสนับสนุนการบริโภคอย่างรับผิดชอบและสร้างคุณค่ากลับคืนสู่ชุมชน
เราไม่ได้เป็นเพียง “ผู้ผลิตน้ำหอม” แต่คือ ผู้ออกแบบประสบการณ์ผ่านกลิ่น (Scent Experience Designer)
เราช่วยให้แบรนด์สื่อสารตัวตนและอารมณ์ผ่านกลิ่นที่เล่าเรื่องได้จริง ผสมผสานความหลงใหล ความคิดสร้างสรรค์ และความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างประสบการณ์กลิ่นที่ตราตรึงใจลูกค้า
มาตรฐานความปลอดภัยของน้ำหอมถูกกำหนดโดย สมาคมน้ำหอมระหว่างประเทศ (IFRA) ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่าส่วนผสมทุกชนิดปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม
Scent & Sense ปฏิบัติตามมาตรฐาน IFRA อย่างเคร่งครัด โดยผลิตน้ำหอมที่ ปลอดจากสารก่อภูมิแพ้ 26 ชนิด เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายและเด็ก เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด
Scent & Sense ได้รับรางวัลรวมกว่า 47 รางวัล ทั้งในประเทศและระดับโลก ตั้งแต่ปี 2022 ถึง 2025 หนึ่งในรางวัลสำคัญคือ The Beauty Shortlist Award 2022 สาขา Innovation จากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชี่ยวชาญและความคิดสร้างสรรค์ของเราในการใช้สมุนไพรไทยเพื่อ ผลิตน้ำหอม ที่มีคุณภาพระดับโลก
ODM หรือ “ผู้ผลิตที่ออกแบบสินค้าเอง” คือ บริษัทที่ออกแบบและผลิตสินค้าครบวงจร แล้วให้แบรนด์อื่นนำไปจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อของตนเอง ..บริษัท ODM จะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในแบบผลิตภัณฑ์นั้น ทำให้ลูกค้าสามารถนำดีไซน์ที่พร้อมใช้งานไปปรับเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนสี หรือบรรจุภัณฑ์ แล้วทำตลาดในชื่อแบรนด์ของตนได้ทันที
การดำเนินการแบบ ODM มีอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์, และสินค้าอุปโภคบริโภค ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องหอม บริษัท Scent & Sense ถือเป็น โรงงานน้ำหอม ที่ให้บริการ ODM โดยเราออกแบบและพัฒนาสูตรกลิ่นเฉพาะ หรือผลิตภัณฑ์สกินแคร์/เวลเนส ที่พร้อมให้ธุรกิจอื่นนำไปขายภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเอง
สินค้า ODM คือ สินค้าที่ผู้ผลิตได้ออกแบบและพัฒนาไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยลูกค้าสามารถเลือกจากแคตตาล็อกสินค้าที่มีอยู่ พร้อมปรับรายละเอียดเล็กน้อย เช่น สี กลิ่น หรือดีไซน์บรรจุภัณฑ์ จากนั้นสามารถวางขายภายใต้แบรนด์ของตนเองได้ทันที เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเปิดตัวสินค้าอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
บริษัทต่างๆ ใช้บริการ ODM เพื่อ เปิดตัวสินค้า ได้อย่างรวดเร็วและประหยัดต้นทุน บริการนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ที่ต้องการสินค้าพร้อมจำหน่ายทันที ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง หรือน้ำหอม โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการ ออกแบบผลิตภัณฑ์ เองตั้งแต่เริ่มต้น
OEM หมายถึง “ผู้ผลิตตามแบบของลูกค้า” โดยบริษัทผู้ผลิตจะผลิตสินค้าตามแบบและสเปกที่ลูกค้ากำหนดมาอย่างละเอียด ..กล่าวง่ายๆ คือ OEM ไม่ได้ออกแบบสินค้าเอง แต่ผลิตตามแบบที่เจ้าของแบรนด์เป็นผู้คิดและถือสิทธิ์ในดีไซน์นั้น
จุดต่างหลักอยู่ที่ “สิทธิ์ในงานออกแบบ”
ODM: บริษัทเป็นผู้ออกแบบและผลิตสินค้า ลูกค้าสามารถนำไปรีแบรนด์และจำหน่ายภายใต้ชื่อของตนเอง
OEM: บริษัทผลิตสินค้าให้ตามแบบของลูกค้า โดยลูกค้าเป็นเจ้าของดีไซน์และสูตรทั้งหมด
สรุปง่ายๆ คือ ODM ออกแบบและผลิตครบวงจร, ส่วน OEM ผลิตตามคำสั่งของลูกค้าเท่านั้น
Scent & Sense ดำเนินงานหลักในรูปแบบ ODM (Original Design Manufacturer) เราดูแลกระบวนการทั้งหมด ทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบกลิ่น พัฒนาสูตร ไปจนถึงการผลิตสินค้าในรูปแบบพร้อมจำหน่าย ..อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถให้บริการแบบ OEM ได้ด้วย หากลูกค้ามีดีไซน์เฉพาะของตนเอง แต่จุดแข็งและความเชี่ยวชาญหลักของเราอยู่ที่ การพัฒนาและนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจร (Turnkey ODM Solution) สำหรับแบรนด์ที่ต้องการสินค้าพร้อมเปิดตลาด โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
Signature Scent หรือ “กลิ่นประจำแบรนด์” คือ กลิ่นเฉพาะตัวที่สะท้อนบุคลิก เอกลักษณ์ และความสำเร็จของแบรนด์นั้นๆ ..กลิ่นนี้ถูกออกแบบจากการผสมผสานระหว่างตัวตนของแบรนด์ ความชอบของกลุ่มลูกค้า และการวิจัยตลาดอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างกลิ่นที่ถ่ายทอดอารมณ์และประสบการณ์ได้อย่างมีเอกลักษณ์
Signature Scent จะช่วยสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งและน่าจดจำกับลูกค้า ทำให้ลูกค้า จดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น (Brand Recall) และสร้างความโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เพราะกลิ่น มีพลังในการสร้าง “ความทรงจำทางอารมณ์” (Emotional Memory)
Essential Oils: เป็นน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ สกัดจากพืช ดอกไม้ หรือสมุนไพร มักใช้ในงาน Aromatherapy เพื่อบำบัดและผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ
Fragrance Oils: เป็นกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้น เพื่อให้มีกลิ่นหอมที่คงทนยาวนาน เหมาะสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์น้ำหอม สบู่ โลชั่น หรือเครื่องหอมต่างๆ
ในการสร้าง Signature Scent ที่สมบูรณ์แบบ มักผสมผสานทั้งสองประเภทนี้ เพื่อให้ได้ทั้ง “ความหอมตามธรรมชาติ” และ “ความคงทนของกลิ่น”
สามารถทำได้โดยการออกแบบและใช้ Signature Scent ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อแบรนด์โดยเฉพาะอย่างเป็นกลยุทธ์ เช่น การใช้เครื่องกระจายกลิ่นในพื้นที่, การผลิตน้ำหอมส่วนบุคคล, หรือการสร้างประสบการณ์กลิ่นที่สม่ำเสมอในทุกจุดสัมผัสของลูกค้า เพื่อเพิ่มบรรยากาศ, สร้างการรับรู้แบรนด์, และเสริมสร้าง Brand Loyalty
Olfactory Marketing คือการใช้ “กลิ่น” เป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อสื่อสารอารมณ์ ความรู้สึก ยกระดับตัวตนและสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ ได้เป็นอย่างดี ..มันคือศาสตร์ของ “การตลาดผ่านประสาทรับกลิ่น” ที่ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลาย มีความสุข และเชื่อมโยงกับแบรนด์ในเชิงอารมณ์อย่างแนบแน่น
กลิ่นสามารถเข้าถึง “สมองส่วนอารมณ์และความทรงจำ” ได้โดยตรง เมื่อผู้บริโภคได้รับกลิ่นที่สร้างความรู้สึกดี สมองจะจดจำและเชื่อมโยงกับประสบการณ์เชิงบวก ทำให้:
จดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
ใช้เวลาอยู่ในพื้นที่นานขึ้น
เพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ
สร้างความภักดีในระยะยาว
นี่คือเหตุผลว่าทำไมกลยุทธ์ Olfactory Marketing จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือทรงพลังที่สุดของแบรนด์ยุคใหม่
Aromatherapy หรือ “การบำบัดด้วยกลิ่นหอม” เป็นศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ (Essential Oils) เพื่อช่วยผ่อนคลาย บำรุงอารมณ์ และฟื้นฟูสมดุลของร่างกายและจิตใจ ...ในธุรกิจด้านกลิ่น เช่น Scent & Sense แนวคิด Aromatherapy ถูกนำมาใช้ในการออกแบบกลิ่นที่ให้ทั้งความหอมและประโยชน์ต่ออารมณ์ผู้บริโภค
Perfume Pyramid คือ หรือ “โครงสร้างกลิ่นน้ำหอม” เป็นหลักสำคัญของการออกแบบกลิ่น มันอธิบายถึง “การเปลี่ยนแปลงของกลิ่น” ตั้งแต่ช่วงแรกที่ฉีด ไปจนถึงกลิ่นที่คงอยู่ในระยะยาว โดยแบ่งออกเป็น 3 ชั้นหลัก ได้แก่ กลิ่นแรก (Top Notes), กลิ่นกลาง (Middle/Heart Notes) และกลิ่นฐาน (Base Notes)
Top Notes : กลิ่นเบา สดชื่น เป็นสิ่งที่ได้กลิ่นทันทีหลังฉีด แต่จางเร็วภายในไม่กี่นาที
Middle Notes : คือ กลิ่นหลักของน้ำหอม จะปรากฏเมื่อ Top Notes เริ่มจางหายไป และคงอยู่ได้หลายชั่วโมง
Base Notes : คือ กลิ่นที่หนัก เข้มข้น ติดทนนานและระเหยช้า ทำหน้าที่ยึดกลิ่นทั้งหมดเข้าด้วยกัน เป็นพื้นฐานที่ช่วยให้น้ำหอมคงความหอมยาวนานตลอดวัน
Perfume Pyramid เปรียบเสมือนพิมพ์เขียวของ นักออกแบบน้ำหอม (Perfumer) โดยช่วยให้การผสมผสานส่วนผสมมีความสมดุล ทำให้กลิ่นค่อยๆ เผยออกมาอย่างมีลำดับขั้นตอนตามที่กำหนดไว้ ทำให้กลิ่นมีมิติ ไม่ฉุนเกินไป และค่อยๆ แผ่กลิ่นอย่างสวยงามในแต่ละช่วงเวลา เพราะฉะนั้น การเข้าใจ Perfume Pyramid คือ กุญแจสำคัญของการออกแบบกลิ่นที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ ถือเป็นหัวใจของการสร้าง Signature Scent ที่แท้จริง
Scent Diffuser System หรือ ระบบกระจายกลิ่นอัตโนมัติ คือ เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อกระจายกลิ่นหอมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องทั่วทั้งพื้นที่ ช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าจดจำ เพิ่มความรู้สึกเชิงบวกให้กับลูกค้า เสริมภาพลักษณ์แบรนด์ และสร้างการผูกพันทางอารมณ์ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
เทคโนโลยีของเราใช้ระบบการสร้างละออง (Patented Atomizing Technology) ที่ได้รับสิทธิบัตร ซึ่งจะเปลี่ยนน้ำหอมบริสุทธิ์ให้แตกตัวเป็น อนุภาคแห้งขนาดเล็ก หรือไอน้ำที่ละเอียดมาก กระบวนการนี้รับประกันว่ากลิ่นจะหอมยาวนาน สม่ำเสมอ และ ไม่ทิ้งคราบเปียก หรือสารตกค้างใดๆ
ระบบกระจายกลิ่นสามารถยกระดับผลประกอบการทางธุรกิจของคุณได้อย่างชัดเจน:
เพิ่มยอดขาย: กลิ่นหอมช่วยให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายและอยากใช้เวลาในร้านนานขึ้น
กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ: บรรยากาศที่ดีช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในการเลือกสินค้า
ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์: กลิ่นเฉพาะตัวทำให้แบรนด์มีเอกลักษณ์และจดจำได้ง่าย
ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่: เปิดโอกาสในการพัฒนาสินค้ากลุ่มน้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายเพิ่มเติม
ความโดดเด่นของเรา คือ เทคโนโลยีการสร้างละอองขนาดเล็ก ซึ่งรับประกันการกระจายกลิ่นที่สม่ำเสมอและครอบคลุมพื้นที่กว้าง เมื่อผสานกับความเชี่ยวชาญของ นักออกแบบกลิ่น ของเรา ทำให้เราสามารถปรับแต่งได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งการตั้งเวลาเปิด-ปิด และการซิงโครไนซ์กลิ่นให้เข้ากับเสียงเพลงหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ลึกซึ้งและน่าจดจำ
สามารถทำได้ และเป็นประโยชน์อย่างมาก หากคุณใช้ น้ำมันหอมระเหย ที่ปลอดภัยและอ่อนโยน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการนอนหลับโดยเฉพาะ เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ โดยจะช่วยสร้างกลิ่นที่ผ่อนคลายและทำให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น
วิธีใช้ค่อนข้างง่าย เพียงเติมกลิ่นที่ใช้สำหรับเครื่องกระจายกลิ่นที่คุณเลือกใส่ในช่องเก็บน้ำหอม เปิดเครื่อง และตั้งค่าเวลาและความเข้มข้น ของกลิ่นให้เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรวางเครื่องไว้ในบริเวณส่วนกลางหรือใกล้ทางลม เพื่อให้กลิ่นกระจายได้อย่างทั่วถึง
ให้เลือกใช้กลิ่นที่ใช้สำหรับเครื่องกระจายกลิ่น ที่มีคุณภาพดี จากธรรมชาติหรือกลิ่นสังเคราะห์ระดับพรีเมียม และอย่าลืมทำความสะอาดเครื่องอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการอุดตัน ที่สำคัญคือ การวางเครื่องอย่างถูกจุด (ตรงกลางห้อง หรือตามแนวอากาศไหลผ่าน ถ่ายเทได้ดี) เช่น ใกล้ช่องแอร์หรือประตูทางเข้า จะช่วยให้กลิ่นหมุนเวียนและหอมฟุ้งได้ทั่วห้อง
โดยทั่วไป ปลอดภัย หากใช้อย่างถูกต้องและในปริมาณที่พอเหมาะ และไม่เข้มข้นเกินไป เพราะเครื่องพ่นกระจายกลิ่นจะกระจายกลิ่นหอมในความเข้มข้นที่ต่ำและเหมาะสม
ไม่จำเป็น ..คุณสามารถ ปรับจำนวนก้านไม้หอม (Reed Diffuser) เพื่อควบคุมความเข้มข้นของกลิ่นได้ ยิ่งใส่ก้านมากเท่าไหร่ กลิ่นก็จะยิ่งแรงขึ้นและกระจายตัวได้ดีขึ้น แต่ก็หมายความว่าน้ำหอมจะถูกใช้หมดเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
ไม่ควร ..ให้เติมน้ำหอมลงในช่องเก็บตามปริมาณที่แนะนำไว้เท่านั้น สำหรับเครื่องแบบ Ultrasonic ส่วนใหญ่ น้ำหอมมักจะต้องเจือจางด้วยน้ำ การเติมน้ำมันหอมมากเกินไปอาจทำให้เครื่องอุดตันหรือเสียหายได้
Scent Marketing หรือ “การตลาดด้วยกลิ่น” คือ กลยุทธ์การใช้กลิ่นหอม เพื่อกระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรมของผู้บริโภค เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ และเพิ่มความผูกพันทางอารมณ์ในระดับที่ลึกซึ้งกว่าการมองเห็น
แนวคิดของ Scent Marketing Model ตั้งอยู่บนหลักของ Sensory Branding หรือการสร้างแบรนด์ผ่านประสาทสัมผัส โดยประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก:
Brand Alignment: สร้างและพัฒนากลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ (Scent Logo) ซึ่งสะท้อนตัวตนและคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์
Strategic Diffusion: ใช้เทคโนโลยีระบบกระจายกลิ่น (Scent Diffuser System) เพื่อกระจายกลิ่นอย่างสม่ำเสมอในพื้นที่เป้าหมาย
Emotional Connection: กลิ่นจะช่วยเชื่อมโยงทางอารมณ์ กระตุ้นอารมณ์และความทรงจำในเชิงบวก ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่าย รู้สึกผูกพันมากขึ้น และมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม (เช่น ทำให้ลูกค้าอยากใช้เวลาอยู่ในพื้นที่นานขึ้น)
Fragrance Marketing มีความหมายเหมือนกับ Scent Marketing เป็นคำรวมที่ครอบคลุมกิจกรรมทั้งหมดที่ใช้กลิ่นหอม ไม่ว่าจะเป็นการ สร้างกลิ่นเฉพาะแบรนด์ เพื่อปรับปรุงบรรยากาศในร้าน หรือการผลิตผลิตภัณฑ์น้ำหอมเพื่อส่งเสริมการขาย หรือกำหนดนิยามให้กับแบรนด์
กลไกของมัน คือ ประสาทสัมผัสในการรับกลิ่น เพราะ “กลิ่น” มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับสมองส่วนอารมณ์และความทรงจำ (Limbic System) เมื่อธุรกิจหรือแบรนด์ต่างๆ ใช้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลูกค้าจะจดจำแบรนด์ได้โดยไม่ต้องผ่านการคิดวิเคราะห์ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่รวดเร็ว ลึกซึ้ง และคงอยู่ในระยะยาว
ประสิทธิภาพจากการใช้ Scent Marketing นั้นส่งผลต่อแบรนด์ในหลายด้าน เช่น
กระตุ้นยอดขาย: กลิ่นหอมช่วยให้ลูกค้าใช้เวลาในร้านนานขึ้นและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
เสริมภาพลักษณ์แบรนด์: กลิ่นช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราและคุณภาพ
เพิ่มการจดจำแบรนด์: กลิ่นสามารถทำให้แบรนด์น่าจดจำได้มากกว่าภาพหรือโลโก้เพียงอย่างเดียว
สร้างบรรยากาศเชิงบวก: กลิ่นที่ดีช่วยให้ทั้งลูกค้าและพนักงานรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น
กรณีศึกษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ ธุรกิจโรงแรมหรู เนื่องจากมีโรงแรมหลายแห่งใช้ Signature Scent กระจายกลิ่นอยู่ทั่วบริเวณ Lobby และพื้นที่ส่วนกลาง เมื่อลูกค้าได้กลิ่นนั้นที่ไหนในโลก ก็จะจดจำแบรนด์ได้ทันที เป็นการสร้างความรู้สึกคุ้นเคยและความหรูหราที่ทรงพลัง
ไม่มีกลิ่นที่เป็นสูตรสำเร็จตายตัว เพราะประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับบริบทของแบรนด์ อย่างไรก็ตาม กลิ่นที่เรียบง่ายและให้ความรู้สึกสบายมักจะทำงานได้ดีที่สุด งานวิจัยแสดงให้เห็นว่ากลิ่นที่ไม่ซับซ้อน เช่น กลิ่นวานิลลา, ซิตรัส, หรือ ชาเขียว จะมีผลดีกว่ากลิ่นที่ซับซ้อน เพราะสมองประมวลผลได้เร็วกว่า ช่วยลดภาระทางความคิด และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อที่รวดเร็วกว่า
สามารถเริ่มต้นได้ ด้วยขั้นตอนดังนี้
กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน: คุณต้องการสร้างไลน์สินค้า (สำหรับค้าปลีก) หรือสร้างบรรยากาศ (สำหรับพื้นที่และสิ่งแวดล้อม)
ปรึกษานักออกแบบกลิ่น: ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเปลี่ยนคุณค่าของแบรนด์คุณ (เช่น ความน่าเชื่อถือ, ความหรูหรา, นวัตกรรม) ให้เป็น กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์
นำไปใช้อย่างมีกลยุทธ์: สำหรับการปรับบรรยากาศ ควรเลือก ระบบกระจายกลิ่น ที่เหมาะสม และวางแผนจุดติดตั้งอย่างชาญฉลาดเพื่อให้เกิดผลกระทบสูงสุด
