ทำความรู้จักศาสตร์การเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอมและความสำคัญของการทำ Scent Marketing
เจาะลึกความสำคัญของกลิ่นหอมและการเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมให้กลายเป็นเรื่องราวของธุรกิจด้วยการทำ Scent Marketing
ศาสตร์ของการเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอม หรืออีกชื่อหนึ่งของการทำการตลาดในรูปแบบ Scent Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้มีการนำเอากลิ่นหอมที่โดดเด่นและสามารถช่วยดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี มาใช้ประโยชน์ในการช่วยถ่ายทอดเอกลักษณ์ของธุรกิจออกมาอย่างชัดเจน ร่วมกับการช่วยกระตุ้นอารมณ์และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ จนนำไปสู่การทำให้ลูกค้าของธุรกิจที่มีการทำการตลาดในรูปแบบของ Scent Marketing เกิดความความทรงจำที่ดีและความรู้สึกผูกพันอันแสนลึกซึ้งที่จะสามารถเชื่อมโยงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเอาไว้กับแบรนด์ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความเป็นมาของศาสตร์การเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอมและการนำเอากลิ่นหอมมาใช้ประโยชน์ในการทำ Scent Marketing
การนำเอากลิ่นหอมมาใช้ประโยชน์ในการบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ รวมถึงการทำการตลาดในรูปแบบ Scent Marketing ไม่นับว่าเป็นเรื่องที่มีความแปลกใหม่ในสังคมของมนุษย์เรา เนื่องจากในอดีต มนุษย์ได้มีการนำเอากลิ่นหอมจากธรรมชาติมาใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวที่จะสามารถช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและอารมณ์ในระหว่างการทำพิธีกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ การเผากำยาน (frankincense) และมดยอบในโบสถ์ของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เพื่อเป็นการอธิษฐานให้พระเจ้าที่ทรงสถิตอยู่เบื้องบนสามารถทราบถึงคำขอที่ได้ลอยขึ้นไปตามควันและกลิ่นของกำยาน
รวมไปถึงการประกอบพิธีกรรมที่เรียกว่า โคโด (Kodo) หรือการละเล่นทายกลิ่นในศาสนาชินโตของญี่ปุ่น ที่จะมีการเผาไม้หอมเพื่อสร้างบรรยากาศที่ศักดิ์สิทธิ์และเชื่อมโยงกับพลังแห่งธรรมชาติ เป็นต้น โดยถึงแม้ว่าศาสตร์การเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอมในอดีตจะมีความเกี่ยวข้องแค่ในเรื่องของวัฒนธรรมและประเพณี แต่ด้วยการวิจัยและการพัฒนาอย่างเป็นระบบนั้นก็ได้ทำให้วิทยาศาสตร์ของการเล่าเรื่องผ่านกลิ่นหอมได้กลายมาเป็นที่ยอมรับในฐานะของศาสตร์แขนงหนึ่ง อีกทั้งยังถูกนำมาเชื่อมโยงเข้ากับการทำ Scent Marketing และการสร้าง Brand Identity ในธุรกิจประเภทต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย
ไขข้อสงสัย ทำไมศาสตร์การเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอมถึงมีความสำคัญต่อการทำ Scent Marketing
กลิ่นเป็นสิ่งที่มีความสามารถพิเศษในการช่วยกระตุ้นความทรงจำและอารมณ์ที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการทำ Scent Marketing เนื่องจากร่างกายของมนุษย์เราถูกออกแบบขึ้นมาให้มีเซลล์ประสาทรับกลิ่น (Olfactory Receptors) ที่อยู่ในบริเวณเยื่อเมือกในโพรงจมูก เมื่อเราดมกลิ่น โมเลกุลของกลิ่นจะเข้าสู่จมูกและถูกตรวจจับโดยเซลล์ประสาทเหล่านี้จะส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนโอลแฟกทอรี่บัลบ์ (Olfactory Bulb) ที่มีหน้าที่ที่สำคัญในการประมวลผลข้อมูลกลิ่นและส่งสัญญาณไปยังสมองส่วนต่าง ๆ รวมถึงสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำและอารมณ์ อาทิ ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) และอะมิกดาลา (Amygdala)
เพราะฉะนั้นแล้ว ศาสตร์การเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอมจึงมีผลกระทบที่ลึกซึ้งต่อความรู้สึกและอารมณ์ของผู้คน รวมถึงมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในการทำการตลาดในรูปแบบ Scent Marketing เนื่องจากการดมกลิ่นไม่เพียงสามารถกระตุ้นความทรงจำและเชื่อมโยงความรู้สึกของผู้คนเข้ากับประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยกตัวอย่างเช่น กลิ่นของดอกไม้ที่เคยอยู่ในสวนหลังบ้านตอนเด็ก ๆ สามารถพาผู้คนย้อนกลับไปสู่อดีตและความทรงจำที่มีความสุข เป็นต้น แต่กลิ่นหอมยังสามารถช่วยสร้างอารมณ์และกระตุ้นความรู้สึกในแบบที่ต้องการได้อย่างโดดเด่น อาทิ การใช้กลิ่นหอมเพื่อช่วยในการผ่อนคลาย ลดความเครียด เพิ่มพลังงาน รวมถึงการเพิ่มความมั่นใจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตนเอง
ส่งผลให้ในปัจจุบันนี้ เราจึงมักจะเห็นธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมหันมาให้ความสำคัญกับศาสตร์การเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอมและการตลาดในรูปแบบ Scent Marketing กันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในกลุ่มโรงแรมและห้างสรรพสินค้าที่มักจะมีการนำเอากลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวมาใช้ประโยชน์ในการสื่อสารและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ผ่านการเชื่อมโยงกลิ่นหอมเข้ากับอารมณ์และความทรงจำจนทำให้กลิ่นหอมดังกล่าวไม่เพียงสามารถช่วยสร้าง Brand Identity ที่ชัดเจนและมีความเป็นเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจ แต่ยังสามารถกระตุ้นความรู้สึก ความทรงจำ และอารมณ์ในแบบที่ต้องการ ร่วมกับการช่วยสร้างประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน
ความท้าทายของการทำ Scent Marketing และอนาคตของการเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอม
แม้ว่าศาสตร์ของการเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอมและการทำ Scent Marketing จะมีศักยภาพในการช่วยกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกของผู้คนได้อย่างมากมาย แต่หนึ่งในความท้าทายสำคัญที่ผู้ทำการตลาดในรูปแบบ Scent Marketing จะต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ข้อจำกัดในการทำความเข้าใจและการตีความกลิ่นที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละวัฒนธรรม จนทำให้กลิ่นที่มีกลิ่นหอมในวัฒนธรรมหนึ่งอาจจะไม่เป็นที่ชื่นชอบในอีกวัฒนธรรมหนึ่งสักเท่าไหร่นัก เพราะฉะนั้นแล้ว ในการจะเริ่มต้นเล่าเรื่องผ่านกลิ่นน้ำหอมและทำการตลาดในรูปแบบ Scent Marketing ให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจวัฒนธรรมและวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ในการปรุงน้ำหอมอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่า โมเลกุลที่ให้กลิ่นเฉพาะตัวและมีความสามารถในการกระตุ้นอารมณ์ ความทรงจำ และความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นหอมเหล่านั้นที่มีความแตกต่างกันออกไปของน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้ ผลไม้ สมุนไพร และเครื่องเทศนั้น จะถูกนำมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวและเป็นเอกลักษณ์ จนได้ออกมาเป็นน้ำหอมที่มีเรื่องราวซ่อนอยู่ภายในและสามารถสื่อสารเรื่องราวที่ต้องการออกมาได้อย่างชัดเจนและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด
โดยสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการทำการตลาดในรูปแบบ Scent Marketing เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์ Scent And Sense คือ บริษัทน้ำหอม โรงงานน้ำหอม บริษัทรับทำแบรนด์น้ำหอม รับผลิตน้ำหอม ออกแบบน้ำหอม ทำแบรนด์น้ำหอม สร้างแบรนด์น้ำหอม ที่พร้อมให้บริการด้าน Scent Experience (Scent Marketing, Sensory marketing, Scent Ci Brand, Brand Sensory และ brand identity ) แบบครบวงจร พร้อมกันนี้เรายังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นผู้นำด้านการออกแบบกลิ่นในเอเชีย ที่สามารถรังสรรค์กลิ่นหอมและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ในรูปแบบ “Signature Scent” ของสินค้าและบริการที่หลากหลาย ที่จะสามารถตอบโจทย์กับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเครื่องหอม รวมถึงธุรกิจที่ต้องการออกแบบน้ำหอมเพื่อการทำการตลาดในรูปแบบ Scent Marketing และการสร้างการจดจำแบรนด์ (Brand Recognition) ร่วมกับการช่วยสร้างความประทับใจและการจดจำของธุรกิจให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับทำแบรนด์น้ำหอม และการทำ Scent Marketing
LineOA: @perfumefactory
Tel: +66 2125 3073
Phone: +666 5305 4224, +669 3653 5979
Email: info@scentandsense.co.th
Comments