top of page

เบื้องหลังกลิ่นหอม รู้จักศาสตร์แห่ง Perfume Design


เพราะน้ำหอมไม่ใช่แค่กลิ่น แต่คือศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ผสานกันอย่างลงตัว

เวลาคุณฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรด แล้วรู้สึกว่ากลิ่นนี้ “ใช่เลย”คุณเคยสงสัยไหมว่า กลิ่นนั้นถูกออกแบบมาอย่างไร?ใครเป็นคนเลือกกลิ่นให้กลมกล่อมพอดี? แล้วกลิ่นหอมที่เรารู้สึกชอบตั้งแต่ครั้งแรกนั้น ต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง?


Perfume Design คืออะไร?

คือกระบวนการออกแบบและสร้างสรรค์กลิ่นหอม โดยใช้วัตถุดิบหลากหลายชนิด ทั้งจากธรรมชาติและสังเคราะห์ เพื่อให้ได้กลิ่นที่มีเอกลักษณ์และสื่อสารความรู้สึกบางอย่างกับผู้ใช้

ผู้อยู่เบื้องหลังกลิ่นเหล่านี้เรียกว่า Perfumer หรือที่เรียกอย่างเคารพว่า “ นักปรุงกลิ่น ” พวกเขาเปรียบเสมือนนักแต่งเพลงของโลกแห่งกลิ่น ที่ผสมผสาน “ โน้ต ” กลิ่นต่างๆ ให้เข้ากันอย่างกลมกล่อม

มาทำความรู้จัก โน้ต ในโลกของน้ำหอม

ในการออกแบบกลิ่น น้ำหอมหนึ่งขวดจะถูกแบ่งเป็น 3 ระดับ หรือที่เรียกว่า “ โน้ตของกลิ่น (Fragrance Notes) ” ได้แก่ :

1. Top Note – กลิ่นแรกที่สัมผัสได้หลังฉีด

มักเป็นกลิ่นแนวสดชื่น เช่น ส้ม มะกรูด เลมอน หรือมิ้นต์ กลิ่นนี้จะอยู่เพียง 5–15 นาที

2. Heart Note – กลิ่นกลางที่แสดงตัวตนของน้ำหอม

มักเป็นกลิ่นดอกไม้ หรือกลิ่นสมุนไพร เป็นช่วงที่น้ำหอมเริ่มนิ่ง กลิ่นจะติดอยู่ได้นาน 2–4 ชั่วโมง

3. Base Note – กลิ่นท้ายที่อยู่กับผิวคุณไปจนถึงปลายวัน

มักเป็นกลิ่นแนวอบอุ่น ลึกซึ้ง เช่น วานิลลา มัสก์ ไม้หอม อำพัน หรือแพทชูลี่ ช่วยให้กลิ่นโดยรวมติดทนนานและมีเอกลักษณ์

การจัดเรียงโน้ตเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละกลิ่นจะระเหยและทำปฏิกิริยาบนผิวไม่เหมือนกัน การที่น้ำหอมหนึ่งกลิ่นจะ “ร้อยเรียง” โน้ตได้อย่างลื่นไหล จึงต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง

น้ำหอมหนึ่งกลิ่นผสานศาสตร์และศิลป์ไว้ด้วยกัน


Perfume Design ไม่ได้เป็นแค่การผสมกลิ่นให้หอมเท่านั้น แต่ยังต้อง เข้าใจพฤติกรรมของวัตถุดิบแต่ละชนิด  ทดสอบกลิ่นบนผิวมนุษย์จริง  คำนึงถึงการกระจายกลิ่น (sillage) และความทนของกลิ่น (longevity)  และ สร้างอารมณ์ หรือ “ Story ” ที่กลิ่นนั้นต้องการเล่า

บางครั้งการสร้างกลิ่นหนึ่งกลิ่น อาจใช้เวลาหลายเดือน หรือมากกว่านั้น มีการทดลองนับร้อยครั้ง เพื่อให้ได้กลิ่นที่ “สมบูรณ์แบบ”

ทุกกลิ่นมี “บุคลิก” และ Perfume Design จะช่วยสะท้อนความเป็นตัวคุณ เช่น:

  • กลิ่นซิตรัส = คนสดใส มั่นใจ

  • กลิ่นฟลอรัล = คนอ่อนโยน โรแมนติก

  • กลิ่นวู้ดดี้หรือมัสกี้ = คนสุขุม ลึกลับ

  • กลิ่นอำพัน วานิลลา = คนอบอุ่น เซ็กซี่

เพราะฉะนั้น การออกแบบกลิ่นจึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “ เคมี ” แต่คือการตีความความรู้สึก ความทรงจำ และความฝันของผู้ใช้...ผ่านกลิ่นหอมที่พวกเขาเลือกใช้ในแต่ละวัน ทุกกลิ่นที่เราออกแบบ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเลือก “ กลิ่นที่หอม ” เท่านั้น แต่เกิดจากการเข้าใจอารมณ์ ความต้องการ และความรู้สึกของผู้ใช้จริง 


เราทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่น วัตถุดิบคุณภาพสูง และการทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้ได้น้ำหอมที่ไม่เพียงแต่หอม...แต่ “ รู้สึก ” ได้ และยังเป็นการเลือก “ อารมณ์ที่คุณอยากรู้สึก ” และ “ ตัวตนที่คุณอยากให้คนจำ ” อีกด้วย

ที่ Scent and Sense เราไม่เพียงออกแบบน้ำหอมที่หอมอย่างมีเอกลักษณ์ แต่เรายังใส่ใจใน “ทุกชั้นของกลิ่น” เพื่อให้สื่อสารบุคลิกและเรื่องราวของคุณได้อย่างลึกซึ้ง เราทำงานร่วมกับนักปรุงกลิ่นมืออาชีพ และใช้วัตถุดิบคุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อรังสรรค์ Perfume Design ที่ไม่ใช่แค่กลิ่น…แต่คือความรู้สึกที่คุณอยากบอกโลก

หากคุณกำลังมองหากลิ่นที่เป็น “ตัวคุณ” หรืออยากสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้โดดเด่นในแบบที่สัมผัสได้ด้วยใจ เราพร้อมเดินร่วมทางกับคุณในทุกขั้นตอนของการออกแบบกลิ่น


Комментарии


Featured Posts

Recent Posts

Archive

Search By Tags

Follow Us

  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
marque.png

Scent And Sense ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบการตลาดด้วยกลิ่นหอม
โดยมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในอุตสาหกรรม ด้วยความรู้ลึกซึ้งในด้านการรับผลิต ODM น้ำหอม และการออกแบบน้ำหอม รวมถึงผลิตภัณฑ์สปา ของใช้ในโรงแรม
ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละแบรนด์

Line official
@Perfumefactory

line white.png

® 2014 by Scent And Sense Laboratory Co., Ltd

fb.webp
instagram.webp
youtube.webp
bottom of page