เบื้องหลังกลิ่นหอม รู้จักศาสตร์แห่ง Perfume Design
- Scent And Sense
- 18 มิ.ย.
- ยาว 1 นาที

เพราะน้ำหอมไม่ใช่แค่กลิ่น แต่คือศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ผสานกันอย่างลงตัว
เวลาคุณฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรด แล้วรู้สึกว่ากลิ่นนี้ “ใช่เลย”คุณเคยสงสัยไหมว่า กลิ่นนั้นถูกออกแบบมาอย่างไร?ใครเป็นคนเลือกกลิ่นให้กลมกล่อมพอดี? แล้วกลิ่นหอมที่เรารู้สึกชอบตั้งแต่ครั้งแรกนั้น ต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง?
Perfume Design คืออะไร?
คือกระบวนการออกแบบและสร้างสรรค์กลิ่นหอม โดยใช้วัตถุดิบหลากหลายชนิด ทั้งจากธรรมชาติและสังเคราะห์ เพื่อให้ได้กลิ่นที่มีเอกลักษณ์และสื่อสารความรู้สึกบางอย่างกับผู้ใช้
ผู้อยู่เบื้องหลังกลิ่นเหล่านี้เรียกว่า Perfumer หรือที่เรียกอย่างเคารพว่า “ นักปรุงกลิ่น ” พวกเขาเปรียบเสมือนนักแต่งเพลงของโลกแห่งกลิ่น ที่ผสมผสาน “ โน้ต ” กลิ่นต่างๆ ให้เข้ากันอย่างกลมกล่อม
มาทำความรู้จัก โน้ต ในโลกของน้ำหอม
ในการออกแบบกลิ่น น้ำหอมหนึ่งขวดจะถูกแบ่งเป็น 3 ระดับ หรือที่เรียกว่า “ โน้ตของกลิ่น (Fragrance Notes) ” ได้แก่ :
1. Top Note – กลิ่นแรกที่สัมผัสได้หลังฉีด
มักเป็นกลิ่นแนวสดชื่น เช่น ส้ม มะกรูด เลมอน หรือมิ้นต์ กลิ่นนี้จะอยู่เพียง 5–15 นาที
2. Heart Note – กลิ่นกลางที่แสดงตัวตนของน้ำหอม
มักเป็นกลิ่นดอกไม้ หรือกลิ่นสมุนไพร เป็นช่วงที่น้ำหอมเริ่มนิ่ง กลิ่นจะติดอยู่ได้นาน 2–4 ชั่วโมง
3. Base Note – กลิ่นท้ายที่อยู่กับผิวคุณไปจนถึงปลายวัน
มักเป็นกลิ่นแนวอบอุ่น ลึกซึ้ง เช่น วานิลลา มัสก์ ไม้หอม อำพัน หรือแพทชูลี่ ช่วยให้กลิ่นโดยรวมติดทนนานและมีเอกลักษณ์
การจัดเรียงโน้ตเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละกลิ่นจะระเหยและทำปฏิกิริยาบนผิวไม่เหมือนกัน การที่น้ำหอมหนึ่งกลิ่นจะ “ร้อยเรียง” โน้ตได้อย่างลื่นไหล จึงต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง
น้ำหอมหนึ่งกลิ่นผสานศาสตร์และศิลป์ไว้ด้วยกัน
Perfume Design ไม่ได้เป็นแค่การผสมกลิ่นให้หอมเท่านั้น แต่ยังต้อง เข้าใจพฤติกรรมของวัตถุดิบแต่ละชนิด ทดสอบกลิ่นบนผิวมนุษย์จริง คำนึงถึงการกระจายกลิ่น (sillage) และความทนของกลิ่น (longevity) และ สร้างอารมณ์ หรือ “ Story ” ที่กลิ่นนั้นต้องการเล่า
บางครั้งการสร้างกลิ่นหนึ่งกลิ่น อาจใช้เวลาหลายเดือน หรือมากกว่านั้น มีการทดลองนับร้อยครั้ง เพื่อให้ได้กลิ่นที่ “สมบูรณ์แบบ”
ทุกกลิ่นมี “บุคลิก” และ Perfume Design จะช่วยสะท้อนความเป็นตัวคุณ เช่น:
กลิ่นซิตรัส = คนสดใส มั่นใจ
กลิ่นฟลอรัล = คนอ่อนโยน โรแมนติก
กลิ่นวู้ดดี้หรือมัสกี้ = คนสุขุม ลึกลับ
กลิ่นอำพัน วานิลลา = คนอบอุ่น เซ็กซี่
เพราะฉะนั้น การออกแบบกลิ่นจึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “ เคมี ” แต่คือการตีความความรู้สึก ความทรงจำ และความฝันของผู้ใช้...ผ่านกลิ่นหอมที่พวกเขาเลือกใช้ในแต่ละวัน ทุกกลิ่นที่เราออกแบบ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการเลือก “ กลิ่นที่หอม ” เท่านั้น แต่เกิดจากการเข้าใจอารมณ์ ความต้องการ และความรู้สึกของผู้ใช้จริง
เราทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่น วัตถุดิบคุณภาพสูง และการทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้ได้น้ำหอมที่ไม่เพียงแต่หอม...แต่ “ รู้สึก ” ได้ และยังเป็นการเลือก “ อารมณ์ที่คุณอยากรู้สึก ” และ “ ตัวตนที่คุณอยากให้คนจำ ” อีกด้วย
ที่ Scent and Sense เราไม่เพียงออกแบบน้ำหอมที่หอมอย่างมีเอกลักษณ์ แต่เรายังใส่ใจใน “ทุกชั้นของกลิ่น” เพื่อให้สื่อสารบุคลิกและเรื่องราวของคุณได้อย่างลึกซึ้ง เราทำงานร่วมกับนักปรุงกลิ่นมืออาชีพ และใช้วัตถุดิบคุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อรังสรรค์ Perfume Design ที่ไม่ใช่แค่กลิ่น…แต่คือความรู้สึกที่คุณอยากบอกโลก
หากคุณกำลังมองหากลิ่นที่เป็น “ตัวคุณ” หรืออยากสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้โดดเด่นในแบบที่สัมผัสได้ด้วยใจ เราพร้อมเดินร่วมทางกับคุณในทุกขั้นตอนของการออกแบบกลิ่น
Комментарии