กลิ่น…สะพานสู่ความเข้าใจ Scent And Sense กับการเชื่อมโยงความหลากหลายทางวัฒนธรรม

ในโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และประเพณี เรามักมองหาวิธีที่จะสร้างความเข้าใจและความกลมเกลียวระหว่างผู้คน แม้จะมีพรมแดน วัฒนธรรม และภาษาเป็นสิ่งแบ่งแยก แต่ “กลิ่น” กลับเป็นสิ่งที่ไร้พรมแดน… และนี่คือหัวใจสำคัญที่บริษัท Scent And Sense Laboratory Co., Ltd. ใช้ในการขับเคลื่อนพันธกิจด้าน SDG Goal 10: ลดความไม่เสมอภาค

ด้วยปรัชญาที่ว่า “กลิ่นคือภาษาสากลของความรู้สึก” Scent And Sense จึงมุ่งมั่นที่จะใช้ “กลิ่น” เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงวัฒนธรรมที่หลากหลาย ให้สามารถเข้าใจกันผ่านประสบการณ์ประสาทสัมผัสที่ไม่ต้องแปล

กลิ่นคือภาษาที่ไม่ต้องใช้คำพูด

หนึ่งในความน่าทึ่งของกลิ่น คือมันสามารถกระตุ้นความทรงจำ ความรู้สึก และอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นดอกมะลิที่อาจพาใครสักคนย้อนนึกถึงบ้านเกิด หรือกลิ่นมะพร้าวที่เตือนถึงทะเลเมืองร้อน ทุกวัฒนธรรมล้วนมี “กลิ่นแห่งความผูกพัน” เป็นของตนเอง

การเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านกลิ่นในห้องปฏิบัติการ

บริษัทได้เปิดหลักสูตรอบรมด้านการสร้างกลิ่นให้กับนักเรียนและบุคลากรจากหลากหลายประเทศ รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ห่างไกล โดยไม่จำกัดแค่ผู้มีความรู้ด้านเคมีหรือการตลาด แต่เปิดกว้างสำหรับผู้ที่มีเรื่องราวในกลิ่น ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้การสกัดกลิ่น การผสมผสานวัตถุดิบ และการสร้างเรื่องเล่าผ่านน้ำหอมของตนเอง การนำเสนอผลงานในเวทีระหว่างวัฒนธรรมทำให้ผู้คนเรียนรู้ความงามจากวัฒนธรรมอื่น ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด

กลิ่นกับการลดอคติและสร้างความเข้าใจ

ในสังคมปัจจุบันที่บางครั้งเต็มไปด้วยความขัดแย้งทางชาติพันธุ์หรือศาสนา กลิ่นสามารถเป็นเครื่องมือ “ละลายกำแพงใจ” ได้อย่างอ่อนโยน เมื่อผู้คนได้ลองดมกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย พร้อมฟังเรื่องราวเบื้องหลังของกลิ่นนั้น เช่น กลิ่นธูปไม้จันทน์ที่ใช้ในพิธีกรรมของชาวอินเดีย หรือกลิ่นข้าวเหนียวที่พาคนไทยและคนลาวนึกถึงความอบอุ่นของบ้าน ก็จะเกิดความเข้าใจว่า "เราต่างมีรากแห่งความรู้สึกที่คล้ายกัน"

บทบาทของธุรกิจในโลกที่ต้องการความเข้าใจ

ในฐานะบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่น Scent And Sense มองว่า ธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องกำไร แต่เป็นเครื่องมือของการสร้างสังคมที่มีความหมาย เราอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ทั้งหมด แต่เราสามารถใช้ “กลิ่น” เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนเริ่มต้นมองต่างวัฒนธรรมด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง

การใช้กลิ่นเป็นเครื่องมือในการลดความไม่เสมอภาคทางวัฒนธรรม คือการปลูกเมล็ดพันธุ์ของความเข้าใจ ซึ่งแม้จะมองไม่เห็น แต่สามารถ “รู้สึก” ได้อย่างลึกซึ้ง